สรยุทธ ผู้สื่อข่าวชื่อดังเปิดเผยว่า ชัยวุฒิ รัฐมนตรีดีอีเอส ติดโควิด เบื้องต้นอาการปกติ ปวดหัวเล็กน้อย เตรียมเข้าประชุม ครม. ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ต่อไป เพจเฟซบุ๊กของ นาย สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้สื่อข่าวและพิธีกรข่าวชื่อดังได้ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ติดโควิด-19
โดยข้อความระบุว่า “มีรายงานว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) คิดเชื้อโควิด คาดว่า อาจจะติดมาจาก การลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล อาการยังปกติ มีไข้ปวดหัวเล็กน้อย ปอดไม่อักเสบ และวันนี้จะเข้าประชุมครม. ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์”
ซึ่งถือว่านายกรัฐมนตรีได้รับวัคซีน 4 เข็มตามมาตรฐานสาธารณสุข ก่อนที่จะเดินทางเยือนประเทศซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ม.ค. และ นายกฯและคณะจะขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองกองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 07.00 น. และเดินทางกลับถึงประเทศไทยในเวลา 08.45 น. ของวันที่ 26 ม.ค.
ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ระบุว่าหลังเดินทางกลับจากประเทศซาอุฯ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ ซึ่งรวมถึง น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ และเจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติตามระเบียบของ ศบค.อย่างเคร่งครัดรวมถึงคณะที่เดินทางไปพร้อมกับนายกรัฐมนตรี ทั้งนายดอน ปรมัตถ์สินัย รองนายกฯแบะ รมว.ต่างประเทศ โฆษกและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ในประเด็นที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ติดโควิดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีภารกิจหรือการประชุมร่วมกับนายชัยวุฒิ แต่อย่างใด ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงโควิดแต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรีเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ 30 ปี พร้อมเข้าเฝ้าเจ้าชายมุฮัมมัด 25-26 ม.ค. นี้ วันนี้ 23 ม.ค.นี้ เพจเฟซบุ๊ก “ไทยคู่ฟ้า” โพสต์ประกาศจากนายกรัฐมนตรี ถึงการเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 – 26 มกราคม 2565 โดยมีข้อความภายในประกาศระบุรายละเอียดว่า
ศรีสุวรรณร้อง กกต.สอบ พลังประชารัฐขับธรรมนัส-20 ส.ส. ถูกกฎหมายหรือไม่
วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อไต่สวนและวินิจฉัย กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติให้ 21 ส.ส.ของพรรคออกจากสมาชิกสภาพ เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 2561 และ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อค่ำวันที่ 19 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ของพรรค โดยมีมติให้ส.ส. 21 คน ที่เป็นกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยอ้างกลุ่ม ส.ส.ดังกล่าวมีการเรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงที่กระทบกับเสถียรภาพและเอกภาพของ พปชร. โดยมีมติตามข้อบังคับข้อที่ 54(5) ประกอบวรรคท้าย ให้สมาชิกภาพสมาชิกสิ้นสุดลงเนื่องจากเป็นเหตุร้ายแรง เป็นเรื่องความมั่นคง เอกภาพ เสถียรภาพของพรรค การมีมติดังกล่าว มีข้อสงสัยหลายประการ ดังนี้
1)การที่สมาชิก หรือ ส.ส.เรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ จะถือได้ว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรง จนต้องให้ออกจากสมาชิกพรรคนั้น ชอบหรือไม่
2)การที่มี 17 กรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. 61 คน รวมทั้งสิ้น 78 คนประชุมกันแล้วมีมติให้สมาชิกพรรคออกจากสมาชิกภาพ โดยมิได้มี ส.ส.ทั้งหมดของพรรคเข้าร่วมประชุมจนครบ จะถือว่าชอบหรือไม่
3)ข้ออ้างในการมีมติเห็นชอบให้ ส.ส.21 คน พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพของพรรคนั้นโดยอ้างข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ 54(5) ว่าเป็นเหตุร้ายแรงอื่นนั้น โดยที่พรรคพลังประชารัฐไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน สอบสวน สมาชิกทั้ง 21 คนเพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมร่วมของพรรคพิจารณาเสียก่อนนั้น ชอบหรือไม่ และ
4)ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกให้ออกนั้น ต้องพ้นสภาพ สส.ไปเลยหรือไม่ เนื่องจากมิได้เกิดเหมือนกรณีการขอยุบพรรคหรือการถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพราะถ้าย้ายพรรคไปแล้วก็จะไปแซง บ/ช ของพรรคอื่น หรือ ไปอยู่พรรคใหม่ที่ไม่เคยส่งเลือกตั้ง ก็จะไปเป็น บ/ช รายชื่อของพรรคนั้นๆ โดยไม่เคยถูกเลือกมาเลยไม่ว่าจะแบบไหน ซึ่งน่าจะหมดสภาพ สส.ไปเลย และ บ/ช รายชื่อ ของ พปชร.ลำดับถัดไปน่าจะได้ขึ้นมาแทนที่ หรือไม่ อย่างไร
ด้วยข้อสงสัยข้างต้นซึ่งอาจขัดต่อข้อบังคับพรรคและกฎหมาย สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญจึงต้องมาแจ้งต่อ กกต.ให้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบเป็นการฝ่าฝืนย่อมอาจเข้าข่ายกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 ม.92(2) ซึ่งเป็นเหตุให้ กกต.อาจเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนนั้นได้ นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป